ระบบสมาชิก |
|
สมาชิกทั้งหมด 6 คน |
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 1 คน |
[admin]
|
|
|
 |
 |
 |
จัดการเรื่องร้องเรียนทุจริต |
|
|
|
 |
 |
 |
|
|
|
 |  |  |
|
|
|
|
|
วัดพระพุทธบาท ยโสธร ตั้งอยู่ที่ บ้านหนอกยาง ต.หัวเมือง อ.มหาชัย จ.ยโสธร โบราณสถานสำคัญที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่บนเนินทรายริมฝั่งแม่น้ำชีทัศนียภาพสวยงามสงบร่มเย็น วัดพระพุทธบาทยโสธรแห่งนี้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท นับเป็น โบราณสถานอันล้ำค่าของจังหวัด ภายในวัด โดดเด่นด้วยพระอุโบสถสีขาวหลังคาสีน้ำเงิน มีความงดงามตามแบบศิลปะประยุกต์ ทั้งการออกแบบรั้วและระเบียงที่มีลวดลายปูนปั้นที่ดูแปลกตา ภายในประดิษฐานพระประธานที่เจียระไน จากหยกขาวขนาดหน้าตัก กว้าง 2.31เมตร สูง 3.7 เมตร ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปหยกขาวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในวัดมีพระเจดีย์ทรง 8 เหลี่ยม ชื่อว่า เจดีย์มหาชัยชนะ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกมี การจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปหัตถกรรมเครื่องมือเครื่องใช้ของชาวอีสานครั้งอดีต และเป็นห้องสมุดสำหรับค้นคว้าพระธรรมวินัย พระไตรปิฎก ชั้นที่ 2 จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนบูรพาจารย์ ส่วนชั้นสุดท้ายได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถัดจากเจดีย์มหาชัยชนะ คือ อาคารที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท บริเวณเดียวกันนี้ยังมีโบราณวัตถุอีกชิ้นหนึ่ง ได้แก่ พระพุทธรูป ปางนาคปรก (ศิลาแลง) 1 องค์ ขนาดหน้าตักกว้าง 1 ศอก และหลักศิลาจารึกทำด้วยศิลาแลง 1 หลัก สูง 1 เมตร กว้าง 50 เซ็นติเมตร มีตัวหนังสือโบราณบันทึกไว้ว่า โบราณวัตถุทั้ง 3 อย่างนี้พระมหาอุตตปัญญาและสิทธิวิหาริก ได้นำมาจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 1378 นอกจากนั้นก็เขียนบอกคำนมัสการพระพุทธบาทไว้ บางตัวเลือนลางมาก ในระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปี จะมี ประชาชนจากอำเภอและตำบลใกล้เคียงไปนมัสการเป็นจำนวนมาก



พิพิธภัณฑ์มาลัยข้าวตอก

เนื้อความในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยพระสุตตันตปิฎก บทปรินิพพานสูตร กล่าวคือ ดอกมณฑารพ
ซึ่งเป็นดอกไม้บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ เมื่อถึงกาลเวลาที่ดอกมณฑารพจะบาน และร่วงหล่นก็ด้วยเหตุการณ์สำคัญๆ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน จารุรงคสันนิบาต และทรงแสดงธรรมจักรกัปวัตนสูตร ดอกมณฑารพจึงได้ร่วงหล่นลงมายังโลกมนุษย์ ครั้งเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันปรินิพพาน ดอกมณฑารพนี้ก็ได้ร่วงหล่นลงมาทั้งก้านและกิ่ง เปรียบเสมือนความเสียอกเสียใจพิไรรำพันต่อการเสด็จดับขันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหล่าพระภิกษุผู้ได้ชื่อว่าอรหันตขีนาสพและหมู่เหล่าข้าราชการบริพารประชาชนทั้งหลายได้พากันมาถวายสักการะพระบรมศพของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้พากันนำเอาข้าวตอกมาสักการบูชา เพราะถือว่าข้าว เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นของสูงที่มนุษย์จะขาดไม่ได้และต่อมามีการนำมา ประดิษฐ์ตกแต่งเป็นมาลัยที่สวยงาม เป็นที่มาของ “มาลัยข้าวตอก” ประเพณีหนึ่งเดียวในโลก ที่อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร
ระยะเวลาการแห่พวงมาลัยอำเภอมหาชนะชัย จะมีการแห่พวงมาลัย ๒ ครั้ง คือ
1. วันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ก่อนวันมาฆบูชา ๑ วัน โดยแห่ไปทอดถวาย ณ วัดหอก่อง
2. วัดฟ้าหยาดจะทำพร้อม ๆ กับบุญ ประจำปี หรือบุญกุ้มข้าวใหญ่ รวมถึงบุญคูณลานให้เสร็จพร้อมกันทีเดียว อยู่ช่วงประมาณเดือนยี่หรือเดือนสอง
ประเภทของพวงมาลัยพวงมาลัยของชาวอำเภอมหาชนะชัยมี ๒ แบบ คือ
1. พวงมาลัยข้าวตอกแตก วัสดุที่ทำประกอบด้วยข้าวตอกแตกเป็นหลัก ข้าวตอกแตก คือ ข้าวเปลือกที่คั่วให้ข้าวแตกออกจากเปลือกด้วยความร้อนจากไฟ จะคล้ายกับข้าวโพดคั่ว
2. พวงมาลัยแบบเส้นด้าย เป็นพวงมาลัยที่ทำด้วยเส้นฝ้ายเป็นหลัก




|
|
|
|
 |  |  |
|